ก่อนที่จะถึงช่วงเส้นตายตลาดซื้อขายนักเตะซึ่งน่าจะประมาณ 9 วัน แมนยู จำเป็นต้องดำเนินการตัดสินใจ 5 เรื่องที่สำคัญมากๆ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีการเสริมทัพที่น่าสนใจมากๆ ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยพวกเขาได้ตัว มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์, โจชัว เซิร์กซี, นุสแซร์ มาซราวี และ เลนี่ โยโร่ มาร่วมทัพ ที่สำคัญเกมเปิดซีซั่นก็ถือว่าใช้ได้เมื่อชนะ ฟูแล่ม 1-0
อย่างไรก็ตามในโค้งสุดท้ายของตลาดพ่อค้าแข้งซึ่งก็คือวันที่ 30 สิงหาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) แมนฯ ยูไนเต็ด มีเรื่องสำคัญที่จะต้องขบคิดและตัดสินใจ เพราะมันอาจจะส่งผลกับผลงานของสโมสรในฤดูกาล 2024/2025 เลยทีเดียว
1. เซ็นสัญญา มานูเอล อูการ์เต้
ตอนนี้ มานูเอล อูการ์เต้ ถือเป้าหมายอันดับแรกที่เหลืออยู่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการเสริมทัพก่อนที่ตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้จะปิดตัว เนื่องจากกองกลางตัวรับเป็นตำแหน่งที่ทีมต้องการอย่างมาก
ดาวเตะชาวอุรุกวัย วัย 23 ปี เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตำแหน่งนี้ โดย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต้องการค่าตัวของนักเตะประมาณ 51 ล้านปอนด์ (ราว 2,397 ล้านบาท) และรายงานล่าสุดระบุว่าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงค่าตัวได้แล้ว
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังไม่ได้บทสรุป เพราะสื่อบางกระแสอ้างว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังพยายามที่จะต่อรองเรื่องค่าตัวกับ "เปแอสเช" ดังนั้นในช่วง 9 วันสุดท้ายก่อนตลาดปิดพวกเขาต้องตัดสินใจในเรื่องนี้
2. ขาย สกอตต์ แม็คโทมิเนย์
ช่วงที่ผ่านมามีรายงานจากอิตาลี ระบุว่า สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้รับความสนใจจาก นาโปลี อย่างมาก เนื่องจากกุนซืออันโตนิโอ คอนเต้ อยากได้ดาวเตะชาวสกอตติชรายนี้มากๆ
ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยว่าผู้อำนวยการกีฬาของ "อัซซูร์ร่า" เดินทางไปที่ อังกฤษ แล้วเพื่อที่จะพูดคุยกับบอร์ดบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยงานนี้พวกเขาคาดหวังที่จะเซ็นสัญญากับ "แม็คทอม" ให้ได้
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า แม็คโทมิเนย์ ยังมีความปรารถนาที่จะอยู่ค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไป กระนั้น แมนฯ ยูฯ จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อตกลงที่ได้รับประมาณ 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,175 ล้านบาท) เหมาะสมและคุ้มค่าที่จะปล่อยออกจากทีม
3. เซ็นกองกลางคนอื่น
แม้ว่าการเซ็นสัญญากับ อูการ์เต้ จะมีความสำคัญมากๆ เนื่องจากนี้คือผู้เล่นดาวโรจน์ที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก อย่างไรก็ตามถ้า แม็คโทมิเนย์ ย้ายทีม สโมสรจำเป็นต้องเซ็นผู้เล่นกองกลางเข้ามาเพิ่มอีกคนก่อนตลาดซัมเมอร์ปิดตัว
ขณะที่ อูการ์เต้, เมสัน เมาท์ และ ค็อบบี้ เมนู มีโอกาสที่จะได้ลงตัวจริง ส่วนนักเตะในพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่แดนกลางอย่างเช่น กาเซมีโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น และ โทบี้ คอลลีเยอร์ อาจจะไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้เมื่อเจอกับโปรแกรมแน่นเอี๊ยด ดังนั้น "ปีศาจแดง" จำเป็นต้องนี้กำลังเสริม
ก่อนหน้านี้พวกเขามีข่าวพัวพันกองกลางหลายคน แต่ติดตรงที่เรื่องค่าตัว ซึ่งงานนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงพยายามที่จะมองหาออปชั่นกองกลางราคาถูกเพื่อใช้เป็นยางอะไหล่ก่อนปิดตลาดวันพฤหัสบดีหน้า
4. ตัดสินใจอนาคต ซานโช่
อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับ แมนฯ ยูฯ ก็คือการตัดสินใจว่าจะเก็บหรือขาย เจดอน ซานโซ่ โดยพวกเขาต้องการเม็ดเงินจำนวน 40 ล้านปอนด์ (ราว 1,880 ล้านบาท) สำหรับการปล่อย สตาร์วัย 24 ปีออกไป
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากผลงานที่ย่ำแย่ของ ดาวเตะดีกรีทีมชาติอังกฤษ นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ใน "โรงละครแห่งความฝัน" จำนวนตัวเลขที่พวกเขาต้องการมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
ยูเวนตุส แสดงความสนใจอยากได้ ซานโช่ ไปร่วมทัพ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยอมควักกระเป๋าจำนวน 40 ล้านปอนด์ ดังนั้น แมนฯ ยูฯ ต้องตัดสินใจว่าจะยอมลดค่าตัวของนักเตะเพื่อจะได้ขายเขาออกไป หรือยอมแบกรับภาระค่าเหนื่อยเพื่อเก็บเขาเอาไว้กับทีม
5. ขาย ฮันนิบาล เมจบรี้
เมจบรี้ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะแยกทางกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเร็ว ๆนี้ โดย ดาวเตะวัย 21 ปี ตกเป็นข่าวว่าได้ร้องขอขึ้นบัญชีย้ายทีมไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งต้นสังกัดก็อนุมัติเรียบร้อย แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อเสนอยื่นเข้ามา
ช่วงที่ผ่านมา เบิร์นลี่ย์ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด แสดงความสนใจอยากใช้บริการ เมจบรี้ ขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่นักเตะจะย้ายออกไปหาประสบการณ์ในศึกลา ลีกา สเปน และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส แต่กระนั้น "ผีแดง" ต้องการที่จะขายแบบถาวรเท่านั้น
ดาวเตะทีมชาติตูนิเซีย มีสัญญาจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2025 นั่นหมายความว่านี่คือซัมเมอร์สุดท้ายที่ แมนฯ ยูฯ จะสามารถเรียกร้องค่าตัวจากเขาได้ หลังทีมควักกระเป๋าซื้อตัวมาร่วมทีมจำนวน 8 ล้านปอนด์ (ราว 376 ล้านบาท) เมื่อปี 2019 และ "ผีแดง" ต้องการค่าตัวอย่างน้อย 10 ล้านปอนด์ (ราว 470 ล้านบาท) ถึงจะยอมขาย เมจบรี้ ออกไป
|