หงส์แดง เสีย 6 ประตูจาก 10 เกมนับตั้งแต่ที่ เฟอร์จิน ฟาน ไดค์ ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นสถิติที่น่าประทับใจในช่วงเวลานี้ เพราะอย่างลืม ฟาบินโญ่ เป็นเซนเตอร์แบ็กจำเป็น แต่จับคู่กับ มาติป ได้อย่างลงตัว ดังนั้นสาวก เดอะ ค็อป ต้องภาวนาอย่างให้ทั้งคู่บาดเจ็บ ไม่งั้นทีมเสียสมดุลแน่ๆ
สำหรับ เนโก วิลเลี่ยมส์ อาจจะถูกตำหนิไปบ้างจากการเล่นโฉ่งฉ่างจนเป็นเหตุให้ทำฟาวล์คู่แข่งตั้งแต่ต้นเกมและโดนใบเหลือง แต่หลังจากนั้นนักเตะกลับมาเล่นอย่างมีสมาธิ และทำหน้าที่ดีในการเล่นเกมรับโดยเฉพาะในการสู้กับ อดาม่า ตราโอเร่ ส่วนเกมรุกก็เป็นเครื่องหมายการค้าของเขาอยู่แล้ว
4. เจ้าหนูเทรนต์ กลับมาแล้ว
หลังจากต้องใช้เวลาเกือบเดือนในการรักษาอาการบาดเจ็บ ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ได้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ฟิตสมบูรณ์กลับคืนสู่สังเวียนแข้งอีกครั้ง และคงทำให้เกมบุกทางริมเส้นฝั่งขวาคงจะมีมิติ และอันตรายมากว่าเดิมอีกหลายเท่า
ต้องยอมรับว่า เนโก วิลเลี่ยมส์ ทำผลงานได้ดีในการแทนที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในช่วงที่พักพื้นร่างกาย แต่ในเรื่องการเล่นเกมบุก ดาวเตะชาวเวลส์ ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะต้องกลับไปนั่งในซุ้มม้านั่งสำรองเมื่อ เทรนต์ กลับมาฟิตสมบูรณ์ ในช่วงท้ายครึ่งหลัง คล็อปป์ ตัดสินใจส่ง อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงมาเคาะสนิมออกจากหน้าแข้ง เพื่อให้พร้อมสำหรับเกมต่อๆ ไป แต่เขาทำได้ดียิ่งกว่านั้น เมื่อแสดงให้เห็นถึงความแม่นยำในการเปิดบอลจากริมเส้นได้กลับคืนมาอีกครั้งแล้ว โดยเฉพาะจังหวะที่เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ และ ซาดิโอ มาเน่ เข้าชาร์จก่อนที่บอลจะโดน เนลสัน เซเมโด้ เข้าประตูตัวเอง
นอกจาก เทรนต์ ที่หายเจ็บแล้ว นาบี เกอิต้า ก็กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง ขณะที่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ อเล็กซ์ อ็อดซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก็น่าจะใกล้กลับมาช่วยทีมได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งหากผู้เล่นทุกคนกลับมาครบ บอกเลยว่าขุมกำลังเชิงลึกของ “”หงส์แดง”” น่ากลัวเกินจะบรรยายจริงๆ ค่ำคืนแสนวิเศษที่แอนฟิลด์ พร้อมสถิติไร้พ่ายในบ้าน
หลังจากที่รัฐบาลอนุญาตให้แฟนบอลกลับเข้ามาชมเกมในสนามได้ ลิเวอร์พูล ถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ระดับ 2 จึงได้สิทธิ์ให้สาวก “”เดอะ ค็อป”” กลับเข้ามาในอัฒจันทร์ได้จำนวน 2,000 คน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นทีมแชมป์ลีกเล่นกับตานับตั้งแต่ทีได้แชมป์ลีกที่รอคอยมานาน 30 ปี
แม้ว่าจำนวนกองเชียร์จะมีแค่ 2,000 คนเท่านั้น แต่บรรยากาศใน แอนฟิลด์ เริ่มกลับมามีกลิ่นอายแห่งมนต์ขลัง โดยเฉพาะการได้ยินเสียงแฟนบอลตะโกนเรียกชื่อนักเตะลั่นสนาม รวมไปถึงเสียงเพลงที่สุดคลาสสิคอย่าง ยู วิลล์ เนเวอร์ วอล์ค อะโลน (You ll Never Walk Alone) ที่ดังแบบสดๆ ไม่ได้เปิดแผ่นเสียง แน่นอนว่าตอนนี้สิ่งที่ ดีโอโก้ โชต้า อยากสัมผัสมากๆ นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ หงส์แดง ก็คือการได้เห็นแฟนบอลของพวกเขาตะโกนเชียร์สุดหัวใจ แม้ตอนนี้อาจจะเป็นแค่เศษเสี้ยวจากจำนวนหลายหมื่นคน แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าในอนาคต เหล่าสาวก เดอะ ค็อป จะกลับมาเต็มสนามอีกครั้ง

pokerbezdepozita.com
|